รีวิวประสบการณ์ประสาทแดกกับวีซ่า UK 2019

 ประสบการณ์ประสาทแดกกับวีซ่า UK 2019 ที่จริงมันก็ไม่ประสาทแดกเท่าไหร่ถ้าเราทำแค่ของเราคนเดียวหรือ ทำแบบไม่เกิน 10 คน การทำวีซ่าในครั้งนี้ทำเพื่อเตรียมพร้อมไปเที่ยวอังกฤษช่วงปีใหม่ ก่อนทำก็มีการอ่านรีวิวการทำวีซ่าในปี 2019 ซึ่งหลายคนบ่นว่าวีซ่าออกช้า เราจะไม่พูดให้มากความมาเล่าขั้นตอนการขอวีซ่ากันเลยจร้า

การกรอกแบบฟอร์มสมัครวีซ่า

เข้าไปกรอกข้อมูลที่เว็บไซต์ UK visas & Immigration  โดยเราจะต้องสร้าง account ก่อน ซึ่ง account นึงสามารถกรอกข้อมูลได้หลายคน ครั้งนี้นอกจากเราจะกรอกข้อมูลให้ตัวเองแล้วก็จะต้องกรอกให้ญาติๆอีก 9 คน ทั้งนี้เราแยกแบ่งให้น้องช่วยกรอก 3 คน เรากรอกอีก 6 คน รวมตัวเองเป็น 7 คน ซึ่งจะมีทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่ แต่งงานแล้ว โสด ซึ่งการกรอกข้อมูลก็จะมีความแตกต่างกัน ทำให้สมองเบลอเป็นพักๆ
ทั้งนี้เว็บการกรอกข้อมูลเป็นแบบใหม่ผู้ใหญ่และเด็กจะกรอกข้อมูลคล้ายๆกัน แต่สำหรับเด็กโปรแกรมจะคำนวณอายุจากวันเดือนปีเกิดแล้วจะขึ้นการกรอกข้อมูลสำหรับเด็กมาให้ค่ะ ช่วงแรกๆที่กรอกของเด็กก็จะงงมากเลย

แถมตัวอย่างการกรอกเอกสาร สำหรับตัวอย่างนี้จะเป็นตอนที่เรากรอกเอกสารเรียบร้อยแล้วจะไม่เรียงตามในแบบฟอร์ม แต่ดูประกอบได้จ๊ะ

ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก



ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก

ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก



ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก


ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก

ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก

ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก

ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก

ตัวอย่าง การกรอกเอกสารของเด็ก


การกดคิวสัมภาษณ์วีซ่า

หลังจากกรอกข้อมูลและจ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว เราก็ทำการนัดสัมภาษณ์กับทาง VFS ซึ่งในการนัดสัมภาษณ์นั้นก็จะมีการแจกแจงรายละเอียดบริการต่างๆที่ทาง VFS ทำมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ยื่นวีซ่า ซึ่งถ้าเราไม่มั่นใจในขั้นตอนที่เราทำจะเสียเงินก็ได้ไม่ว่ากัน
โดยหลักก็จะมีค่า SMS 85 บาท แจ้งว่าวีซ่ามาถึงหรือยัง ค่าจัดส่งเอกสาร 280 บาท และมีแพคเกจค่าจัดส่ง+SMS 360 บาท (เช็คราคาตอนกดนัดสัมภาษณ์อีกทีนะ)
ทั้งนี้ด้วยความที่เราต้องนัดสัมภาษณ์ 10 คน แต่ด้วยมีความจำเป็นบางประการต้องแยกเป็น 1 คน 5 คน และ 4 คน สำหรับตอนนัดสัมภาษณ์เราเอา accountน้องมาจองเองเพื่อความรวดเร็ว โดยกดเลือกวันที่มีการสัมภาษณ์ฟรี ซึ่งมันมีทุกวันแหละแต่จะเต็มเร็วมาก ในส่วนของคิวนัดสัมภาษณ์จะมีทั้งฟรีและเสียเงิน ส่วนของการเสียเงินจะมีสิทธิประโยชน์บางประการเข้ามา ทางเราไม่ได้สนใจจึงไม่ขอแจงรายละเอียดแล้วกันนะ

เอกสารสำหรับยื่นวีซ่า

สำหรับเอกสารทุกอย่างที่จะยื่นกับสถานฑูตอังกฤษต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด และทำการสแกนและอัพโหลดส่งไปในขั้นตอนนัดหมายให้เรียบร้อย หากไม่ทำการสแกนและอัพโหลดจะต้องเสียค่าบริการให้ทาง VFS ทำให้เมื่อไปถึงศูนย์ราคา 460 บาทต่อคน สำหรับเอกสารที่เราโหลดมีดังนี้

1.หน้า Passport
2.ใบจองตั๋วเครื่องบินไปกลับ
3.ใบจองที่พัก
4.เอกสารรับรองทางการเงิน: Bank statement, เอกสารรับรองว่ามีคนออกเงินให้ (ถ้าใช้เงินตัวเองไม่ต้องอัพโหลด)
5.บัตรประชาชน
6.ใบรับรองการทำงาน/ การเรียน (ภาษาอังกฤษ)
7.เด็กอายุต่ำกว่า 18 ต้องเตรียมเอกสารเพิ่ม
- ใบเกิด (ภาษาอังกฤษ)
- หน้าพาสปอร์ตพ่อแม่
- ใบทะเบียนสมรส (ภาษาอังกฤษ)
- ใบอนุญาตกรณีพ่อหรือแม่ไม่ได้ไปด้วย (ขอที่อำเภอแล้วแปลเป็นภาษาอังกฤษ)
8.ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
9.จดหมายแนะนำภาษาอังกฤษว่ามีใครไปบ้าง (กรณีที่ไปหลายคน)

วันสัมภาษณ์วีซ่า

เดินทางไปยังตึก Trendy สุขุมวิท ซ.13 โดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีนานา ออกทางออก3 เมื่อเดินเข้าไปในตัวตึกแล้วให้ไปที่เคาท์เตอร์ด้านซ้ายมือ แจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามีนัดสัมภาษณ์กี่โมง หากเรามาถึงใกล้เวลาก็จะได้สแตมป์เพื่อขึ้นไปสัมภาษณ์ชั้น 28 ได้เลย ซึ่งตอนวันสัมภาษณ์เรานัด 11.15 น. และไปถึงก่อนเวลา 20 นาทีก็ได้ขึ้น หากมาก่อนเป็นชั่วโมงก็นั่งรอไปสักหน่อยค่อยไปถามเค้าว่าขึ้นได้รึยัง หากเจ้าหน้าที่อนุญาตก็ขึ้นชั้น 28 และทำวีซ่ากันเลย
ออกจากลิฟท์ก็จะมีเจ้าหน้าที่เรียกคนทำวีซ่าให้ต่อแถว ปิดเสียงโทรศัพท์ และสแกนก่อนเข้าทำวีซ่า
เมื่อผ่านขั้นตอนดังกล่าวมาแล้วก็เดินไปที่เคาท์เตอร์เพื่อตรวจเอกสาร เมื่อตรวจเอกสารเสร็จก็จะได้บัตรคิวและเข้าไปด้านในรอเรียกชื่อเพื่อตรวจเอกสารอีกรอบนึง จากนั้นรอเรียกเข้าไปถ่ายรูปและสแกนลายนิ้วมือก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ขั้นตอนสัมภาษณ์ถ้าใครไปเป็นครอบครัวนามสกุลเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ก็จะให้เราเข้าไปด้วยกัน ซึ่งสะดวกดีแต่ใช้เวลานาน
สำหรับการถ่ายรูปสำหรับเด็กที่ต่ำกว่า 18 จะให้ผู้ปกครองถ่ายก่อน เรียกเด็กเข้าไปทีหลังและให้ผู้ปกครองอยู่พร้อมกับเด็กด้วย

เอกสารวันสัมภาษณ์วีซ่า

1.ใบนัดสัมภาษณ์
2.สำเนาหน้าพาสปอร์ต
3.พาสปอร์ตตัวจริง
4.ใบ Check list (เอาไปให้ครบทุกหน้านะ)
5.หน้าแรกใบกรอกข้อมูลวีซ่า
**เอกสารดังกล่าวจะมีให้โหลดหลังจากเสร็จแต่ละขั้นตอน**

***กรณีพิมพ์ชื่อตกหล่น***
เนื่องจากเราพิมพ์ชื่อของญาติผิดไปตัวนึง แล้วกลัวว่าทางสถานทูตจะไม่ให้ผ่านเลยติดต่อทางสถานทูตทั้งอีเมล์และโทรศัพท์ ซึ่งพอปรึกษาเค้าแล้วก็ได้รับการยืนยันว่าคุณจะต้องกดยกเลิกและสมัครใหม่ ในกรณีแจ้งยกเลิกจะต้องดำเนินการก่อนวันนัดสัมภาษณ์เพื่อทำเรื่องคืนเงิน หากไปทำวีซ่าแล้วขอยกเลิกทีหลังจะไม่ได้เงินคืนจ๊ะ
ทั้งนี้พอเรามาเช็คเอกสารของแต่ลพคนอีกทีก็ปรากฏว่ามีีน้องอีกคนที่ชื่อผิดเหมือนกันขาดไปตัวอักษรนึง ซึ่งทางเราก็ขอวัดดวงด้วยการไปถามเจ้าหน้าที่ที่ VFS เลย ผลปรากฏว่าเราสามารถแก้ชื่อข้างหน้าได้เลยไม่ต้องยกเลิกให้วุ่นวาย และวีซ่าก็ผ่านเช่นกัน

วันรับวีซ่าที่ VFS

นำสำเนาพาสปอร์ตและใบเสร็จที่ทางเจ้าหน้าที่ออกมาติดต่อรับที่ชั้น 28 เวลา 13.00-16.00 น.
กรณีที่รับแทนให้เขียนหนังสือมอบอำนาจ (แยกเป็นคนๆ ไม่เขียนรวมกัน) และสำเนาบัตรประชาชนคนมารับแทน
สำหรับเด็กเล็ก (ที่ยังพิมพ์ลายนิ้วมือในพาสปอร์ต)ให้เขียนใบมอบอำนาจแล้วให้พ่อแม่เด็กเซ็นต์

ตัวอย่างใบมอบอำนาจ


หวังว่าบล็อกนี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่จะไปทำวีซ่าอังกฤษและขอให้ผ่านกันทุกคนเลยนะจ๊ะ 

Comments

Popular posts from this blog

รักษาสิวกับ ศิริราช ปิยมหาราชการุณย์

คลินิกนอกเวลา ศิริราช

ยารักษาสิว ของศิริราช